เกี่ยวกับเรา 

(044) 579076

โรงพยาบาลบัวเชด บริการตรวจโรคทั่วไป ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.00น.-16.00น. 

และให้บริการการงานอุบัติเหตุฉุกเฉิน ทำคลอดตลอด เปิดให้บริการตลอด 24ชั่วโมง ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

งานบริการแพทย์ฉุกเฉิน และส่งต่อผู้ป่วย อาสาสมัครกู้ชีพ ให้บริการประชาชนในชุมชน เบอร์โทรฉุกเฉิน 1669

งานแพทย์แผนไทย ให้บริการนวด ประคบ อบสมุนไพร วันจันทร์-วันศุกร์(วันทำการ) เวลา 08.00น. - 16.00น. และ 16.00น.-20.00น.
วันหยุดนักขัตฤกษ์ ให้บริการเวลา 08.00น. - 16.00น.

 

งานทันตกรรม ให้บริการ อุดฟัน , ถอนฟัน , ขูดหินปูน , เคลือบฟัน , ฟันปลอม
ให้บริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
วันจันทร์, วันพุธ เช้าเวลา 08.15น.-11.30น. บ่ายเวลา 13.00น.-15.30น.
วันอังคาร, วันพฤหัสสบดี เช้าเวลา 08.15น.-11.30น. บ่ายเวลา 13.00น.- 15.30น. วันศุกร์ เวลา 08.15-11.30 น.
วันเสาร์ - วันอาทิตย์ และวันหยุด เวลา 08.15น.-11.30น. บ่ายเวลา 13.00น.-15.30น.

 

วัสดุสำนักงาน งานพัสดุ วัสดุทันตกรรม งานทันตกรรม เวชภัณฑ์ยา งานเภสัชกรรม 

 

 

ประวัติอำเภอบัวเชด     

                   พื้นที่อำเภอบัวเชด  เดิมเป็นท้องที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์  แต่มีประชากรอาศัยอยู่น้อยเนื่องจากเป็นป่าและการคมนาคมไม่สะดวกประมาณ ปี พ.ศ.  2430  มีราษฎรประมาณ 5  ครัวเรือน  มีผู้นำครอบครัวคือ           นายบัว  ภรรยา ชื่อ  นางเชด  จึงเรียกชื่อในระยะแรกว่าบ้านตาบัวยายเชด  เป็นที่มาของบ้านบัวเชด  อยู่ในการปกครองของตำบลดม  อำเภอสังขะ  ต่อมาอำเภอสังขะได้แยกตำบลดมออกไปตั้งเป็นตำบลบัวเชด 

                   ปี พ.ศ. 2460  ได้แยกตำบลบัวเชดออกไปตั้งเป็นตำบลสะเดา 

                   ปี พ.ศ. 2511  แยกตำบลบัวเชดออกไปตั้งเป็นตำบลจรัส 

                   ปี พ.ศ. 2521  กระทรวงมหาดไทย  ประกาศแบ่งเขตการปกครอง  อำเภอสังขะ  ตั้งเป็นกิ่ง

                                     อำเภอบัวเชด  ประกอบด้วย  3  ตำบลคือ  ตำบลบัวเชด  ตำบลสะเดา  และ

                                     ตำบลจรัส  ประกอบด้วย  32  หมู่บ้าน  โยตั้งที่ว่าการอำเภอชั่วคราวที่บ้านตาปิม 

                                     ตำบลบัวเชด  โดยอาศัยฐาน  มว.ตชด.305  เป็นที่ทำการ

                   ปี พ.ศ. 2527  กิ่งอำเภอบัวเชดได้รับการยกฐานะเป็นอำเภอบัวเชด

 

สภาพทางภูมิศาสตร์    

                   อำเภอบัวเชดตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดสุรินทร์โดยมีอาณาเขตติดต่อ  ดังนี้

ทิศเหนือ          ติดต่อเขตตำบลพระแก้ว  อำเภอสังขะ  จังหวัดสุรินทร์

ทิศใต้             ติดต่อกับประเทศกัมพูชา

ทิศตะวันออก     ติดต่อกับตำบลละลม  อำเภอภูสิงห์  จังหวัดศรีสะเกษ

ทิศตะวันตก       ติดต่อกับตำบลดม  อำเภอสังขะ  จังหวัดสุรินทร์ 

ลักษณะภูมิประเทศ

                   อำเภอบัวเชดมีเนื้อที่ประมาณ  479  ตารางกิโลเมตร  อยู่ห่างจากจังหวัดสุรินทร์ประมาณ  70  กิโลเมตร  พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงสลับกับภูเขา  ด้านทิศใต้บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา  มีความลาดเทจากทิศใต้ไปทิศเหนือ  เป็นแหล่งต้นน้ำไหลผ่านเหมาะแก่การเพาะปลูกพืชไร่  ภูมิอากาศ  ฝนตกชุกระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน  อากาศค่อนข้างหนาวเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม  เดือนมีนาคม – พฤษภาคม  อากาศร้อนจัดและมักประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง  ทำให้เป็นปัญหาในการเพาะปลูก

 ประชากรและการปกครอง

                   แบ่งเขตการปกครองเป็น  6  ตำบล  68  หมู่บ้าน  6872  หลังคาเรือน  เทศบาล  1  แห่ง  องค์การบริหารส่วนตำบล  6  แห่ง  ประชากรทั้งหมด  37,728  คน  ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ  มีอาชีพเกษตรกรรมและรับจ้าง  ส่วนภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร  นอกจากภาษาไทยแล้วจะเป็นภาษาท้องถิ่นคือเขมรสุรินทร์ ภาษลาว  และส่วย  วัฒนธรรมมีความหลากหลายตามกลุ่มภาษาที่ใช้ 

การคมนาคม 

                   เส้นทางการคมนาคมระหว่างจังหวัดและอำเภอเป็นทางลาดยางโดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2077  สามารถสัญจรได้สะดวกตลอดปี

ทำเนียบผู้อำนวยการ โรงพยาบาลบัวเชด

นายแพทย์ประทีป ตลับทอง

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบัวเชด จังหวัดสุรินทร์         

นพ.ประทีป ตลับทอง พ.ศ. 2550 - ปัจจุบัน
นพ.พันตรีศตวรรษ สินประสิทธิ์กุล พ.ศ. 2547 - 2550
นพ.สินชัย ตันติรัตนานนท์ พ.ศ. 2546 - 2547
นพ.อิสระ จำปาเหล็ก  พ.ศ. 2541 - 2546
นพ.พรรณกิจ วนแสงสกุล พ.ศ. 2539 - 2541
นพ.สินชัย ตันติรัตนานนท์ พ.ศ. 2532 - 2539
นพ.อังกูล วานิช พ.ศ. 2531 - 2532
นพ.ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข  พ.ศ. 2530 - 2531
นพ.สุทธิพงศ์ ทัศนียพันธ์ พ.ศ. 2529 - 2530
นพ.โสภณ มุธุสิทธิ์ พ.ศ. 2528 - 2529

 

                             

                         

                         

                                    

                         

                          

                                  

มาตรฐานจริยธรรมองค์กร

 

  • เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา  พระมหากษัตริย์
  • เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความเสียสละ ทุ่มเทสติปัญญา  ความรู้ความสามารถตามาภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย  เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน
  • เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องรักษาและสร้างเสริมความสามัคคีระหว่างผู้ร่วมงาน พร้อมกับให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันในทางที่ชอบ
  • เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต้องประพฤติตนให้สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นด้วยความสุภาพ มีน้ำใจ  มีมนุษยสัมพันธ์อันดีต้องไม่ปิดบังข้อมูลที่จำเป็นในการปฏิบัติงานของเพื่อนร่วมงาน  และไม่นำผลงานของผู้อื่นมาแอบอ้างเป็นผลงานของตน